ค้นหาบทความ

หมวดหมู่

 โหราศาสตร์(9)
 ท่องเที่ยว(9)
 Lifestyle(9)
 รถยนต์(15)
 กีฬา(11)
 สุขภาพ(12)
 ลักษณะปัญหาที่เกิดขึ้นกับรถยนต์(20)
 บทความทั่วไป(75)
 เทคนิคเกี่ยวกับรถ(44)
 ถาม-ตอบที่น่าสนใจ(162)
 ข้อมูล-ความรู้ทางเทคนิค(97)
 อะไหล่(21)
 การดูแลรักษารถ(61)
 การใช้รถ(85)
 Camry Hybrid(13)
 อื่นๆ(35)

บทความล่าสุด

เข้าศูนย์ตอนเช้าดียังไง ?
กรณีรถเสีย จะติดต่อหน่วยงานไหนดี ?
ขับรถตกหลุมบ่อย ๆ จะส่งผลอย่างไรบ้าง ?
ถ้าได้กลิ่นเหม็นไหม้ภายในรถ ควรทำอย่างไร ?
คินโตะ (บริการการเช่ารถจากโตโยต้าราคาเดียว) เหมาะสมกับลูกค้ากลุ่มใดบ้าง?
เหตุใด !! รถยนต์คัมรี่ใหม่ (2564) รุ่น Hybrid ที่ใช้เครื่องยนต์เดิมจึงมีตัวเลขประหยัดน้ำมันตาม Eco Sticker ลดลงจากเดิม ?
เหตุใดจึงต้องมีการยกเลิก รถยนต์ Camry รุ่น 2.0 ลิตร ?
จากรูปลักษณ์ภายนอก เราสามารถแยกรุ่น Hybrid กับเบนซิน ได้อย่างไร ?
คำว่า HEV ย่อมาจากคำว่าอะไร?
เหตุใดการลากรถจึงต้องทำการตรวจสอบระบบขับเคลื่อน ?
สตาร์ทรถไม่ปิดแอร์ส่งผลอย่างไร?
จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง!! หากการเร่งเครื่องหรือเบิ้ลเครื่อง ขณะที่เครื่องยนต์เย็นอยู่ ?
ขณะจอดรถติดไฟแดงควรเลื่อนคันเกียร์อยู่ตำแหน่งใด ?
หลีกเลี่ยงการคิกดาวน์ (Kickdown) เนื่องจากสาเหตุใด ?
สีฟุตบาทขาวเหลืองหมายถึงอะไร ?
เราจะเห็นสีฟุตบาทขาวแดงได้ที่ไหนบ้าง ?
สีฟุตบาทขาวแดงหมายถึงอะไร ?
ICS คืออะไร ?
รถป้ายแดง ขึ้นทางด่วนได้ไหม?
เงื่อนไข ด้านการทำงาน ของระบบ LDA มีขั้นตอนเป็นอย่างไร ?

 

สมุนไพรรักษาโรคได้

เมื่อ : 25 มกราคม 2550เวลา08:56:06 บทความทั้งหมด   แสดงความคิดเห็น(2)

    ตาแดง

สูตรที่ 1 “ ผักบุ้ง ” นำผักบุ้งสด 1 ต้น ล้างน้ำให้สะอาดตำในครกที่สะอาด คั้นเอาน้ำใส่ถ้วยเอาไว้ใช้หยดตาทั้ง 2 ข้าง (แม้ตาจะแดงข้างเดียว)

สูตรที่ 2 “ รมไอชาจีน ” นำชาจีนมาชงด้วยน้ำเดือดแก่ ๆ แล้วให้ไอน้ำรมบริเวณตาจนไอหมด ทำวันละ 3 – 4 ครั้ง

สูตรที่ 3 “ ขมิ้นอ้อย+น้ำนมคน ” นำหัวขมิ้นอ้อยที่มีลักษณะตรงแท่งกลางใหญ่ๆ มาตัดให้เป็นท่อนยาว ๆ ขุดตรงกลางของด้านที่เล็กกว่าให้เป็นหลุมลึกลงไป เอาน้ำนมคนใส่ลงไปในหลุมนั้นให้เต็ม นำไปนึ่งให้ร้อน ทิ้งให้เย็นเอาน้ำนมที่มีสีเหลือง จากขมิ้นอ้อยหยอดตาวัน 3 – 4 ครั้ง

     น้ำมูกไหล เนื่องจากหวัดแพ้อากาศ แก้ไขง่ายๆด้วยการดื่มน้ำอุ่น 500 ml. ทุกเช้าและก่อนนอน ทุกๆวัน

สูตรที่ 1 “ หนุมานประสานกาย ” นำหนุมานประสานกายสด ประมาณ 10 ช่อ ต้มกับน้ำประมาณ 10 แก้ว ต้มเดือดประมาณ 10 นาที ทยอยกินให้หมดภายในหนึ่งวัน

สูตรที่ 2 “ ฟ้าทะลายโจร ” นำใบฟ้าทะลายโจรในระยะที่เริ่มออกดอก ทำให้แห้งแล้วบดเป็นผง ผสมน้ำเชื่อมปั้นเป็นเม็ดเท่าไข่จิ้งจก กินครั้งละ 5 เม็ด ในตอนเช้า

สูตรที่ 3 “ เหงือกปลาหมอ+พริกไทยดำ ” นำเหงือกปลาหมอแห้งสองส่วน พริกไทยดำหนึ่งส่วนบดให้เป็นผงและเข้าเป็นเนื้อเดียวกันปั้นกับน้ำผึ้ง ประมาณปลายนิ้วก้อย กินวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 1-2 เม็ด

     ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น

สูตรที่ 1 “ ใบพลู ” เคี้ยวใบพลูทุกเช้าและก่อนนอน ค่อยๆเคี้ยว ค่อยๆกลืนทีละน้อย เพราะแรกๆจะรู้สึกชาลิ้นและปาก และรู้สึกเผ็ด,ขม วันต่อๆไปจึงเริ่มเพิ่มจำนวนขึ้นไปเรื่อยๆ

สูตรที่ 2 “ ใบฝรั่ง ” นำใบฝรั่งสดย่างไฟอ่อนๆ พอหอมแล้วนำไปชงกับน้ำร้อนกินเหมือนน้ำชา หรือเคี้ยวใบฝรั่งอ่อนๆโดยเคี้ยวและกินได้ทุกวัน

     หูน้ำหนวก ใช้ลำลีก้านที่สะอาดชุบน้ำอุ่นพอหมาด ซับเอาหนองออกให้หมดก่อน

สูตรที่ 1 “ ผลมะกอก ” นำน้ำจากผลมะกอก (ชาวเหนือใช้ใส่ในน้ำพริก) มาล้างให้สะอาด บีบน้ำมะกอกลงในรูหู 2-3 หยด ทำติดต่อกัน 2-3 วัน

สูตรที่ 2 “ กระเทียม ” นำกระเทียมมาปอกเปลือก 3-4 กลีบ ใช้บี้จนเป็นน้ำ ใช้สำลีสะอาดชุบน้ำกระเทียมใส่ลงไปในถ้วยแล้วใช้สำลีชุบน้ำสะอาดใส่ลงไปในถ้วย 15-20 หยด แล้วใช้สำลีอีกก้านคนให้เข้ากัน นำน้ำที่ได้บีบใส่ในหูครั้งละ 2-3 หยด วันละ 2-3 ครั้ง (ถ้ารู้สึกร้อนให้หยดน้ำลงไปผสมในถ้วยอีก จนรู้สึกหูอุ่นเวลาหยอด)

สูตรที่ 3 “ ก้านตาล ” ใช้ก้านตาล (คางตาล) มาเผาไฟ แล้วบีบเอาน้ำออกจากก้านตาลที่เผาพออุ่นๆ นำมาหยอดหูวันละ 4-5 ครั้ง

 ผมร่วงเป็นหย่อมๆ สาเหตุอาจจะเกิดจากเชื้อรา

สูตรที่ 1 “ ทองพันชั่ง ” นำใบทองพันชั่งในปริมาณพอเหมาะกับบริเวณที่มีปัญหา โดยตำให้ละเอียดผสมน้ำเล็กน้อยพอให้เนื้อสมุนไพรเหนียวจับกันแล้วนำไปพอกบริเวณที่มีปัญหาใช้ผ้าคลุมศีรษะทิ้งไว้ค้างคืน แล้วล้างออกในตอนเช้า ทำติดต่อกันเป็นเวลา 15-30 (ก่อนทำควรทำความสะอาดผมก่อน)

สูตรที่ 2 “ มะกรูด ” นำมะกรูดแก่จำนวน 2 ลูก มาเผาไฟจนสุกนิ่ม (ควรใช้เตาถ่าน) แล้วนำน้ำซาวข้าวอุ่นๆ มาขยำแล้วทิ้งไว้ให้เย็น แยกส่วนที่เป็นน้ำมันมานวดผม โดยนวดหลังสระผม (ถ้าใช้น้ำอุ่นแทนน้ำซาวข้าวและใช้มะกรูดดิบแทนจะให้สรรพคุณน้อยกว่า)

     รังแคคัน อาจเกิดจากเชื้อรา

สูตรที่ 1 “ บวบอ่อน ” ใช้บวบอ่อนเป็นบวบชนิดใดก็ได้ 1 ลูก มาฝานบางๆ แล้วนำมาทาบริเวณหนังศีรษะจนทั่วแล้วทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วจึงล้างด้วยน้ำสะอาดออกให้หมด

สูตรที่ 2 “ บวบขมแก่ ” ใช้บวบขมแก่ จำนวนประมาณ 2 ลูก กะเทาะเปลือกออก ใช้ทาผม,หนังศีรษะ และขยี้ซึ่งอาจทำให้เกิดฟอง ขยี้จนทั่ว (ขณะผมเปียก) ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออกหรือใช้บวบขมแก่ ตัดเป็นท่อน แล้วทาศีรษะให้ทั่วจนหมด ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วจึงล้างออก

     อาการนอนไม่หลับ การออกกำลังกายและฝึกใจให้สงบจะช่วยได้

สูตรที่ 1 “ ดอกบัว ” ใช้ดอกบัวที่ใกล้จะบาน 5 ดอก ใส่น้ำให้ท่วม ต้มเดือดนาน 10 นาที แล้วใส่น้ำตาลกรวดพอหวานดื่มครั้งละ 1 แก้ว วันละ 3-4 ครั้ง

สูตรที่ 2 “ ยอดอ่อน , ดอกอ่อน , ต้นขี้เหล็ก ” ใช้ยอดอ่อนหรือดอกอ่อนของใบขี้เหล็กประมาณ 1 กำมือ ต้องใช้สดๆ แล้วรีบทำโดยใช้เหล้าขาว 40 ดีกรีใส่ลงพอท่วม ตั้งทิ้งไว้ 7 วัน กินก่อนนอนวันละ 1-2 ช้อนชา

     หัวโน

สูตรที่ 1 “ น้ำมะนาว+ดินสอพอง ” นำดินสอพองหรือแป้งทาตัวเด็กผสมน้ำมะนาว พอกบริเวณที่โน ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 6 ชั่วโมง จึงเปลี่ยน ถ้าทำเมื่อเป็นใหม่ๆจะเห็นผลชัดมาก

     กุ้งยิง เป็นฝีชนิดหนึ่ง

สูตรที่ 1 “ รมไอน้ำเดือด ” รมไอน้ำเดือด โดยใช้กาน้ำต้มจนเดือดแล้วนำผ้ามาคลุมศีรษะและตัวหม้อไว้ โดยกะระยะให้พอดีไม่ให้ร้อนจนเกินไป ทำเช่นนี้ทุกครั้งที่รู้สึกปวด และเคืองตาหรือทำวันละ 4 ครั้ง จะทำให้รู้สึกหายเจ็บหรือค่อยๆยุบไป

สูตรที่ 2 “ ยอดใบตำลึง ” ใช้ยอดใบตำลึงที่มียางติดอยู่เขี่ยบริเวณที่เป็นหัว ทำวันละ 3 ครั้ง กุ้งยิงก็จะยุบ

สูตรที่ 3 “ เนื้อขมิ้นอ้อย ” ในกรณีที่เริ่มเป็น ใช้เนื้อขมิ้นอ้อยเขี่ยและลูบบริเวณที่เป็นหัว กุ้งยิงจะยุบทันที

ปวดหัวจากความดันโลหิตสูง

สูตรที่ 1 “ ต้นคื่นฉ่าย ” นำคื่นฉ่ายทั้งต้นหั่น นำมาประมาณ 1 กำมือ ต้มกินน้ำ (ห้ามทำดื่มอีกเพราะจะทำให้ความดันลดลงมากไป)

สูตรที่ 2 “ ใบมะยม ” นำใบมะยมแก่ทั้งก้านและใบ ต้มกับน้ำตาลกรวดกินแทนน้ำ

สูตรที่ 3 “ กาฝากต้นมะม่วง ” นำกาฝากต้นมะม่วงทั้งต้นมาต้มกินแทนน้ำ

     ปวดหัวข้างเดียว

สูตรที่ 1 “ ชาหรือกาแฟ ” ดื่มชาหรือกาแฟแก่ ๆ นอนพักผ่อนในที่เงียบสงบและมือ คลายกล้ามเนื้อทุกส่วน ทำจิตใจให้สงบ ไม่ครุ่นคิดใดๆ

สูตรที่ 2 “ ใบข่อย + ใบตำลึง + ใบข้าวสาร ” นำใบข่อย, ใบตำลึง, ใบข้าวสาร อย่างละ 1 กำมือ ตำให้ละเอียดผสมน้ำพอเปียก แล้วนำน้ำไปทาผมให้เปียกอยู่เสมอประมาณครึ่งชั่วโมง อาการปวดจะทุเลาขึ้น

    ปวดหู สาเหตุเนื่องจากเอาไม้ไปแยงหู หรือน้ำสกปรกเข้าหู

สูตรที่ 1 “ ว่านหางจระเข้ ” นำวุ้นที่ได้จากหว่านหางจระเข้แล้วหยอดลงไปในรูหูจนเต็ม โดยตัดปลายว่านหางจระเข้ออกก่อนเพื่อให้ได้รอยใหม่ๆ ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วนำวุ้นไปโปะรอบใบหูด้วย

สูตรที่ 2 “ เมล็ดลำโพง ” นำเมล็ดลำโพงแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ มาแช่ในน้ำมันพืชหรือน้ำมันมะพร้าว 2 แก้ว แช่นาน 7 วัน กรองน้ำมันที่ได้เก็บไว้ใช้หยอดหูครั้งละ 1-2 หยด วันละ 3-4 ครั้ง

     ปากนกกระจอก สาเหตุเกิดจากการขาดวิตามินบี

สูตรที่ 1 “ ฟองข้าว ” ใช้ช้อนเอาฟองข้าวสีขาวที่กำลังหุง นำมาทาที่แผลมุมปาก วันละ 2 ครั้ง ตอนเช้าและเย็น

สูตรที่ 2 “ สำหรับยางมะม่วงกัดปาก ” นำเม็ดในของมะม่วง (ที่มีสีขาวเวลาถูกมีดจะมีสีม่วง) ฝนผสมกับปูนแดงนิดหน่อยจนข้นนำมาทาแผลวันละ 2-4 ครั้งประมาณ 3-4 วัน แผลก็จะหาย

     ปากเป็นแผล

สูตรที่ 1 “ ฝรั่ง ” ให้กินฝรั่งสดวันละ 2-3 ผล และหลังจากรับประทานอาหารให้นำใบฝรั่งมาเคี้ยว (จะมีรสฝาด) พยายามเคี้ยวให้ถูกตรงบริเวณที่เป็นแผล แล้วเคี้ยวใหม่ 2-3 ครั้ง ทำเช่นนี้วันละ 2-3 ครั้ง

สูตรที่ 2 “ ฟ้าทะลายโจร ” นำใบฟ้าทะลายโจรระยะเริ่มออกดอก มาตากแดดให้แห้ง แล้วบดเป็นผง ปั้นผสมกับน้ำเชื่อมเป็นลูกกลอนขนาดเท่ากับปลายนิ้วก้อย ใช้กินครั้งละ 5-8 เม็ด วันละ 2-3 ครั้ง

สูตรที่ 3 “ ลูกยอ ” สับลูกยอ 33 ลูก ให้ละเอียด ผสมเถาวัลย์เปรียงสับละเอียด ปริมาณเท่ากับลูกยอ ใส่เกลือพอเค็มนำมาดองตากแดดตากน้ำค้าง ดื่มแก้ปากเปื่อยคอเปื่อยครั้งละ 1 ถ้วยชา วันละ 3-4 ครั้ง

     กลิ่นปาก สาเหตุสำคัญเกิดจากมีเศษอาหารติดอยู่ตามซอกฟัน

สูตรที่ 1 “ น้ำหม่าข้าว ” นำน้ำแช่ข้าวเหนียว (น้ำหม่าข้าว) ผสมกับเกลือป่น ใช้อม 2-3 นาที แล้วบ้วนทิ้ง อมเป็นประจำ

สูตรที่ 2 “ ใบพลู ” ตอนหลังอาหารค่อย ๆ เคี้ยวใบพลูทีละน้อย (ถ้าเคี้ยวมากจะทำให้ปากชาและร้อน)

สูตรที่ 3 “ ใบฝรั่ง ” นำใบฝรั่งสด มาตากแดดให้หมาด แล้วย่างไฟจนหอม วิธีใช้ชงใบฝรั่ง 1 หยิบมือ กับน้ำร้อน 2 แก้ว กินเป็นประจำครั้งละ 1 แก้ว วันละ 3-4 ครั้ง

     เลือดออกตามไรฟัน สาเหตุเกิดจากการกินผักสด และผลไม้สดน้อยเกินไป ทำให้ขาดวิตามินซี

สูตรที่ 1 “ ผักกระสัง ” เคี้ยวผักใบกระสังให้ละเอียด แล้วนำมาปิดไว้ที่ไรฟัน

สูตรที่ 2 “ ต้นมะเดื่อ ” ถากเปลือกต้นมะเดื่อขนาด 3 นิ้วมือ 3-4 ชิ้น นำมาต้มกับปูนใสจนเดือด แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้อุ่นรินใส่ถ้วย ใช้อมแล้วบ้วนทิ้งจนหมดถ้วย เลือดก็จะหยุดไหล

สูตรที่ 3 “ มะนาว ” กินน้ำมะนาววันละ 2 ลูก ทุกวัน

     คราบบุหรี่ติดฟัน

สูตรที่ 1 “ มะขาม ” ตัดฝักมะขามดิบตามขวาง แล้วเอาด้านที่ถูกตัดถูขัดคราบสกปรกที่ติดฟัน เป็นประจำทุกวัน

กำจัดคราบหินปูนบนฟัน

สูตรที่ 1 “ หมากสด ” ถูฟันด้วยเปลือกหมากสดส่วนที่เป็นสีขาว วันละ 1 ครั้ง ประมาณ 2-3 วัน

     ปวดฟัน ยาที่ใช้ส่วนใหญ่จะควบคุมเชื้อจุลินทรีย์ จะทำให้ปลายประสาทชา เมื่อรู้ว่าฟันผุต้องรีบไปอุดหรือรักษาฟันต่อไป

สูตรที่ 1 “ ใบตำลึง ” นำใบตำลึง 1 กำมือ ดินสอพอง 2 แผ่น โขลกใส่ครกพอให้แหลก เติมน้ำนิดหน่อย นำมาพอกแก้มที่ปวดทิ้งไว้จนแห้ง แล้วเปลี่ยนใหม่ พอกประมาณ 2-3 ครั้ง จะทำให้หายปวด

สูตรที่ 2 “ กานพลู ” ตำกานพลูพอให้แหลก ผสมกับเหล้าขาวนิดหน่อยให้แฉะ ใช้จิ้มหรืออุดฟันที่ปวด

สูตรที่ 3 “ มะขาม ” ลอกเปลือกไม้มะขามเทศหรือมะขามบ้านมา 1 กำมือ ใส่น้ำจนท่วมเปลือกไม้ และใส่เกลือ 1 ช้อนชา ต้มให้เดือดประมาณ 10 นาที ทิ้งไว้ให้เย็น ใช้อมไว้ในปากนาน 2-3 นาที อมประมาณ 3-4 ครั้ง

     ไอ เจ็บคอ เสมหะติดคอ

สูตรที่ 1 “ ข่า ” ตัดข่าแก่ให้เป็นท่อนยาว 1 นิ้ว ทุบให้แตก นำมาใส่ถ้วยเติมน้ำตาลทรายขาว เกลือ น้ำมะนาวใส่ให้ท่วมยา ดองไว้ 3-4 ชั่วโมง วิธีใช้ให้จิบบ่อยๆแล้วอมข่าด้วยจะยิ่งดี

สูตรที่ 2 “ ฟ้าทะลายโจร ” นำใบฟ้าทะลายโจรสด 5-7 ใบ ใส่แก้ว เติมน้ำเดือดจนเต็มแก้ว ปิดฝาทิ้งไว้จนยาอุ่น ใช้กินเฉพาะส่วนน้ำครั้งละ 1 แก้ว วันละ 2 ครั้ง ตอนเช้าและเย็น หรืออมใบฟ้าทะลายโจรสด 1-2 ใบ ไว้ที่เหงือกข้างแก้ม โดยไม่ต้องเคี้ยว

สูตรที่ 3 “ มะนาว ” ฝานเปลือกมะนาวเป็นชิ้นเล็กๆ ใช้อมครั้งละ 1 ชิ้น ค่อยๆ เคี้ยวแล้วกลืนทีละนิด

     เล็บขบ

สูตรที่ 1 “ ไพลสด ” นำไพลสด 1 แง่ง ยาวประมาณ 2 นิ้ว เกลือ 1 หยิบมือ ข้าวสุก 1 กำมือ โขลกผสมให้เข้ากันจนเหนียวนำมาพอกที่เล็บ แล้วใช้ผ้าพันเอาไว้ ให้เปลี่ยนยา 2 ครั้ง ตอนเช้าและเย็น

สูตรที่ 2 “ ใบเทียน ” ตำใบเทียนกิ่ง (เทียนดอก) ให้ละเอียด แล้วใช้พอกที่เล็บขบ ให้เปลี่ยนยา 2 ครั้ง ตอนเช้าและเย็น

สูตรที่ 3 “ มะนาว ” ฝานส่วนหัวของมะนาวออกให้มีขนาดเท่ากับนิ้วที่เล็บขบ และใช้มีดคว้านเอาเนื้อข้างในออกเล็กน้อย แล้วทาปูนแดงบางๆ นำนิ้วสอดเข้าไปแช่ทิ้งไว้ (ควรทำก่อนนอน) ทำประมาณ 2-3 ครั้ง เล็บขบก็จะหาย

     ช้ำใน เนื่องจากถูกกระแทกอย่างแรงจนอวัยวะที่อยู่ภายในบอบช้ำ

สูตรที่ 1 “ หนุมานประสานกาย ” ใช้ใบหนุมานประสานกาย 7 ช่อ (ช่อหนึ่งมีประมาณ 7 ใบ) นำมาตำให้ละเอียด แล้วเอานำไปคั้นกับเหล้า รับประทานน้ำคั้นทันทีที่เกิดอาการ และรับประทานติดต่อกันอีกวันละ 3 ครั้ง เช้า กลางวัน เย็น

สูตรที่ 2 “ มะขามเปียก + ไพล + ยาดำ + เกลือ ” ใช้มะขามเปียก ไพล ยาดำ เกลือ ช่างน้ำหนักอย่างละเท่า ๆ กัน โขลกรวมกันให้ละเอียด นำมาปั้นเป็นลูกกลอนขนาดเท่ากับเม็ดพุทรา รับประทานครั้งละ 1-2 เม็ด วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร

สูตรที่ 3 “ รากลำใย ” ใช้รากลำใยสด 1 กำมือ ใส่น้ำจนท่วมยา นำไปต้มให้เดือดประมาณ 5-10 นาที รับประทานวันละ 2-3 ครั้ง ๆ ละ 1 แก้ว ก่อนอาหาร

 ปวดหลัง ถ้าเกิดจากเส้นยึดตึงให้กินยาคลายเส้นดังต่อไปนี้

สูตรที่ 1 “ ต้นเหงือกปลาหมอแห้ง ” ใช้ต้นและใบเหงือกปลาหมอแห้ง บดให้เป็นผง 2-3 ส่วน และพริกไทยบดให้เป็นผง 1 ส่วน นำมาผสมให้เข้ากันแล้วเติมน้ำผึ้งลงไป ผสมให้เข้ากันอีกครั้ง นำมาปั้นเป็นลูกกลอนขนาดเท่ากับเม็ดพุทรา รับประทานวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น หลังอาหาร

สูตรที่ 2 “ ตะไคร้ ” ใช้หัวตะไคร้หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ นำไปตากแดดให้แห้ง แล้วเอามาคั่วพอให้หอม ใช้สำหรับต้มหรือชงกับน้ำร้อน รับประทานแทนน้ำเหมือนกับรับประทานน้ำชา

     ท้องผูก

สูตรที่ 1 “ ฝักคูน ” ใช้เนื้อในของฝักคูนที่มีสีดำเข้มเป็นยางเหนียว ปั้นเป็นก้อนขนาดเท่ากับเม็ดพุทรา รับประทานครั้งละ 1-4 ก้อน ก่อนนอนหรือเอาเนื้อในฝักคูนครึ่งฝักต้มน้ำ 2-3 แก้ว ให้เดือดประมาณ 5-10 นาที รับประทานครั้งละครึ่งแก้ว ถึง 1 แก้ว ก่อนนอน

สูตรที่ 2 “ ลูกสมอไทย ” ใช้ลูกสมอไทยแห้ง 3-5 ลูก ใส่น้ำ 2 แก้ว ใส่เกลือ 1 หยิบมือ ต้มให้เหลือน้ำ 1 แก้ว รับประทานครั้งละ ครึ่งแก้ว ถึง 1 แก้วก่อนนอนหรือหลังตื่นนอนใหม่ ๆ

สูตรที่ 3 “ เม็ดแมงลัก ” ละลายเม็ดแมงลักสัก 1-2 ช้อนชา ลงในน้ำ จนเม็ดแมงลักพองตัวเต็มที่จนได้น้ำที่ข้นเติมน้ำตาลนิดหน่อยพอให้รับประทานง่าย รับประทานครั้งละ 1 แก้วก่อนนอน

     นิ่ว ยาที่แก้นิ่วได้ ใช้แก้โรคปัสสาวะขัดได้เช่นกัน

สูตรที่ 1 “ รากกล้วย ” ใช้รากกล้วย 1 กำมือ ต้มกับน้ำ 4 แก้ว ให้เดือดประมาณ 10-15 นาที รับประทานวันละ 4 ครั้งๆ ละ 1 แก้ว ก่อนอาหารและก่อนนอน

สูตรที่ 2 “ ดอกกระเจี๊ยบแดง ” ใช้กลีบดอกกระเจี๊ยบแดงแห้ง 1-3 หยิบมือ ต้มกับน้ำ 4 แก้ว ให้เดือดประมาณ 5-10 นาที รับประทานวันละ 3 ครั้งๆ ละ 1 แก้ว ก่อนอาหาร

สูตรที่ 3 “ หญ้าหนวดแมว ” ใช้ยอดหญ้าหนวดแมวหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นำไปตากแห้ง 1-2 หยิบมือ ใส่ลงไปในน้ำเดือด 1 ขวดน้ำปลา ต้มให้เดือดต่อไปอีกประมาณ 5 นาที ให้รับประทานแทนน้ำ

     ส้นเท้าแตก

สูตรที่ 1 “ ขี้ผึ้ง ” ใช้ขี้ผึ้ง ทาบริเวณที่แตก วันละ 3-4 ครั้ง

สูตรที่ 2 “ ยางจากต้นมะม่วง ” ใช้ยางจากต้นมะม่วง ทาบริเวณที่แตก วันละ 3-4 ครั้ง

สูตรที่ 3 “ ยางจากต้นรัก ” ใช้ยางจากต้นรัก ทาบริเวณที่แตก วันละ 3-4 ครั้ง

   แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก

สูตรที่ 1 “ ว่านหางจระเข้ ” ใช้ส่วนที่เป็นวุ้นของใบว่านหางจระเข้ ทาบริเวณที่เป็นแผล เพื่อให้ผิวหนังชุ่มชื้นตลอดเวลาในวันแรกที่เป็น หลังจากนั้นทาวันละ 4-5 ครั้ง หรือทาบ่อยครั้งตามต้องการ

สูตรที่ 2 “ ปูนแดง + น้ำมันมะพร้าว ” เอาปูนแดงก้อนขนาดเท่ากับปลายนิ้วชี้ไปเผาไฟให้โชน แล้วนำมาละลายในน้ำต้มสุกใหม่ 2 แก้ว คนให้ทั่วทิ้งไว้ให้ปูนตกตะกอนนอนก้น เทเอาแต่น้ำใส ๆ ออกมา แล้วเอาน้ำปูนใสที่ได้นี้ 1 ส่วน ผสมกับน้ำมันมะพร้าวที่เพิ่งเคี่ยวใหม่ ๆ 1 ส่วน โดยค่อย ๆ เทน้ำมันมะพร้าวลงไปในน้ำปูนใส คอยกวนอยู่เสมอจะได้ครีมข้นสีขาว เอาผ้าขาวบางชุบครีมนี้ให้ชุ่มปิดแผล เปลี่ยนยาวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น

     แผลสด ยารักษาแผลสดนี้ เป็นยาช่วยห้ามเลือดด้วย ให้เปลี่ยนยาวันละ 2-4 ครั้ง

สูตรที่ 1 “ ไพลสด ” นำเหง้าไพลสดไปล้างให้สะอาด แล้วปอกเปลือกออก ตำให้ละเอียดพอกที่แผลสด

สูตรที่ 2 “ ใบกานพลู ” นำใบกานพลูไปตำให้ละเอียดพอกที่แผลสด ช่วยสมานแผลได้ดี

สูตรที่ 3 “ หนุมานประสานกาย ” ใช้ใบหนุมานประสานกาย ตำให้ละเอียดพอกปิดที่แผล ช่วยห้ามเลือดแผลสด และสมานแผลได้ดี

     ไข้หวัด สำหรับหวัดที่พึ่งเริ่มเป็นใหม่ๆ จะใช้ได้ผลดี

สูตรที่ 1 “ สะเดา ” นำก้านสะเดา 15 ก้าน มาหั่นเป็นท่อนสั้นๆ ต้มกับน้ำ 2 แก้ว เคี่ยวจนเหลือ 2 ส่วน ใช้ดื่มครั้งละครึ่งแก้ว วันละ 2-3 ครั้ง

สูตรที่ 2 “ ฟ้าทะลายโจร ” ใช้ต้นฟ้าทะลายโจร 1 กำมือ ต้มกับน้ำ 3 แก้ว ให้เดือดประมาณ 10 นาที รับประทานครั้งละ 1 แก้ว วันละ 3-4 ครั้ง ก่อนอาหารและก่อนนอน

สูตรที่ 3 “ ขิง ” ใช้ขิงแง่งขนาดเท่ากับหัวแม่มือฝานเป็นแว่นบางๆ ใส่แก้วเติมน้ำเดือดลงไปให้เต็มแก้ว แล้วปิดฝา ตั้งทิ้งไว้ให้เย็น ตักเอาเนื้อขิงออก เติมน้ำตาลให้พอหวาน รับประทานให้หมด วันละ 4 ครั้ง ก่อนอาหาร เช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน

     เมาเพราะกินอาหารที่มีพิษเบื่อเมา เช่น เมาเห็ด เมากลอย

สูตรที่ 1 “ ใบข่อย + ข้าวสารเจ้า ” เอาใบข่อยหนึ่งกำมือ ข้าวสารหนึ่งหยิบมือ นำมาตำให้ละเอียดผสมให้เข้ากันดี คั้นเอาแต่น้ำให้ได้พอประมาณ 1 แก้ว รับประทานยานั้นจะทำให้อาเจียนพิษออกมาได้

สูตรที่ 2 “ ผักบุ้ง + น้ำตาล ” เอาผักบุ้ง 1 กำมือ ต้มผสมกับน้ำตาล ต้มน้ำ 3 ส่วนใช้รับประทาน 1 ส่วน ถ้ามีอาการหนักเมื่อต้มจนเดือดแล้วให้รับประทานก่อนได้เลย แล้วค่อยต้มต่อไปจนยาได้ที่แล้วจึงรับประทานซ้ำอีกที

สูตรที่ 3 “ ถั่วฝักยาว ” เอาถั่วฝักยาวมาหนึ่งกำมือ ตำให้ละเอียด เติมน้ำลงไปเล็กน้อย คั้นเอาแต่น้ำให้ได้สักครึ่งแก้วรับประทานให้หมดแก้ว จะทำให้อาเจียนออกมา

 

ขึ้นด้านบน   ส่งบทความนี้ให้เพื่อน   สั่งพิมพ์หน้านี้   แสดงความคิดเห็น(2)

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

 สูตรช่วยประหยัดค่าโทรศัพท์
 ข้อแนะนำสู่ความสำเร็จ
 ยืดเส้นยืดสาย... สำหรับผู้ขับขี่และผู้นั่งในรถยนต์
 ข้อระวัง..สำหรับผู้เดินทางไปต่างประเทศ
 เทคนิคการบริหารเวลา
แสดงความคิดเห็นในเรื่อง "สมุนไพรรักษาโรคได้"

ความคิดเห็น (2)

ความคิดเห็นที่ 2
 โจ
เมื่อ 2008-06-23 01:42:18
ขอบคุณ.......คร้าบ
ความคิดเห็นที่ 1
 ขมิ้น  [beekwampirom.hotmail.com]
เมื่อ 2008-06-21 12:23:10
รักษาโรคได้ดี
1